ก้าวผ่านขีดจำกัดแห่งการเดินทางด้วยเทคโนโลยี Extended Reality (XR)
Technology & Innovation

ก้าวผ่านขีดจำกัดแห่งการเดินทางด้วยเทคโนโลยี Extended Reality (XR)

  • 01 Jul 2020
  • 23648

เมื่อเทคโนโลยีได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระหว่างการระบาดของโควิด-19 “ทัวร์เสมือนจริง หรือ Virtual Tour” ได้ช่วยเพิ่มสีสันให้ช่วงเวลาที่ต้องกักตัวอยู่บ้านราวกับได้เดินทางไปยังสถานที่สำคัญทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังรู้สึกว่าการเดินทางเสมือนจริงไม่สามารถเติมเต็มความรู้สึกได้เท่าที่ควร

นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริงอย่างการจำลองภาพแบบ 360 องศาด้วย Virtual Reality (VR) ที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าสู่โลกเสมือน เห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวในมุมมองที่เปลี่ยนไป โดยไม่ต้องเดินทางไปไหน หรือเทคโนโลยีที่ผสานระหว่างโลกจริงและความเสมือนจริง Augmented Reality (AR) ที่เพิ่มวัตถุเสมือนลงบนสภาพแวดล้อมจริงได้ โดยอาศัยการมองผ่านอุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์มือถือ ต่างก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการใช้งานที่ต้องใช้งานผ่านอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ หรือจำเป็นต้องถือไว้ตลอดเวลา

และนี่คือเหตุผลที่นักวิจัยได้พัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อจำลองประสบการณ์และตอบโจทย์การใช้งานของมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท Bosch Sensortec ได้เปิดตัวนวัตกรรม “แว่นตาอัจฉริยะ Light Drive” ภายในงาน CES 2020 ด้วยตัวเลนส์ใสและมีน้ำหนักที่เบาเพียง 10 กรัม แถมยังไม่มีตัวกล้องยื่นออกมารบกวนสายตา ทำให้ผู้ใช้งานสวมใส่ได้ง่าย รู้สึกเหมือนสวมแว่นสายตาปกติ จึงสามารถมอบประสบการณ์ในการท่องเที่ยวได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Extended Reality หรือ XR” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์ต่าง ๆ ของเทคโนโลยีอย่าง VR, AR และ MR* ที่ต่อยอดให้เหนือชั้นไปอีกขั้นด้วยการสร้างสิ่งจำลองที่ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์ตอบได้ในสภาพแวดล้อมที่ผสานระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนไว้ด้วยกัน โดยเชื่อมต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ด้วยสัญญาณอินเทอร์เน็ต และด้วยประสิทธิภาพอันไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยี XR นั้น จะช่วยสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการออกเดินทางด้วยการเชื่อมต่อเทคโนโลยีเข้ากับร่างกายของมนุษย์

หากยังนึกภาพไม่ออกว่าแว่นตาอัจฉริยะนี้แสดงผลอย่างไร ให้ลองจินตนาการถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อสวมแว่นตาอัจฉริยะนี้ ถนนเส้นเดิมที่คุ้นเคยกลับเพิ่มเติมไปด้วยภาพลูกศรจำลองที่สามารถนำทางชี้ไปยังพิกัดเป้าหมายที่ต้องการไป โดยสามารถอัพเดตปรับเปลี่ยนเส้นทางได้อย่างรวดเร็ว หรือสามารถอ่านข้อความต่าง ๆ ที่ได้รับ รวมถึงบันทึกการแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องหยุดเพื่อยกโทรศัพท์หรือนาฬิกาขึ้นมาอ่านข้อความ ซึ่งการแสดงผลนั้นอาศัยเทคโนโลยีการฉายแสงเลเซอร์พลังงานต่ำเพื่อสะท้อนลงบนกระจกแว่นให้ผู้สวมใส่มองเห็นข้อมูลได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสายตา ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้นี้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา จึงสามารถออกแบบให้อยู่ภายในขาแว่นได้อย่างสมบูรณ์ หากมองภายนอกจะไม่แตกต่างจากกรอบแว่นทั่วไป ทั้งยังให้ความเป็นส่วนตัวสูงเนื่องจากจะมีแค่เพียงผู้สวมใส่เท่านั้นที่จะมองเห็นการแสดงผล โดยบุคคลภายนอกจะไม่สามารถมองย้อนเข้ามาได้ 

นอกเหนือจากการพัฒนาจอแสดงผลให้ผสานอยู่ในรูปแบบของแว่นตาแล้ว ยังมีอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาให้ข้ามผ่านขีดจำกัดขึ้นไปอีกขั้นด้วย “คอนแทคเลนส์ Mojo Vision” อุปกรณ์การแสดงผลอัจฉริยะสำหรับสวมใส่ขนาดเล็กที่ได้รับการสนับสนุนผ่านการระดมทุนกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการวิจัยและพัฒนา ปัจจุบันโครงการยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติให้ใช้งานได้กับดวงตาจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) โดยการใช้งาน Mojo Lens นี้จะช่วยให้ได้รับประสบการณ์จากเทคโนโลยี XR ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับภาพเคลื่อนไหวที่ตรวจสอบและวิเคราะห์ภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เพียงสายตาในการควบคุมสิ่งต่าง ๆ และมากไปกว่านั้นคอนแทคเลนส์อัจฉริยะนี้ยังสร้างประสบการณ์เพิ่มเติมให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นวัตถุในที่ที่มีแสงน้อยหรือที่มืดได้ดีขึ้น ด้วยการแสดงเส้นกรอบรอบวัตถุเพื่อระบุพิกัดด้วยอัลกอริทึม Edge Detection จึงช่วยผู้ที่มีปัญหาทางการมองเห็นในลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสายตาเลือนลาง (Low-Vision) ได้อีกด้วย

ในอนาคตเทคโนโลยีจะเข้ามาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และเติมเต็มความต้องการได้มากยิ่งขึ้นจากการค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลการแปลข้อความจากต่างภาษาทั้งภาพหรือเสียงผ่านการประมวลผลผ่าน AI เพื่อช่วยให้การสื่อสารและการเดินทางต่างถิ่นสะดวกมากยิ่งขึ้น หรือการทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่ตรวจวัดอุณหภูมิได้อัตโนมัติ การเดินทางรูปแบบใหม่จึงมอบทั้งความสนุกสนานและสะดวกสบาย ทั้งยังช่วยเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหาย ไปในสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นหรือได้ยิน และแม้แต่เติมเต็มจินตนาการบางอย่างที่จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

หมายเหตุ : *Mixed Reality (MR) คือ เทคโนโลยีลูกผสมระหว่าง VR และ AR ที่เชื่อมโยงภาพเสมือนที่จำลองขึ้นมาให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้มีมิติเหมือนของจริง

ที่มา : บทความ “Bosch Gets Smartglasses Right With Tiny Eyeball Lasers” โดย Evan Ackerman
บทความ “Augmented Reality in a Contact Lens: It’s the Real Deal” โดย Tekla S. Perry จาก IEEE SPECTRUM

เรื่อง : มนต์นภา ลัภนพรวงศ์