
Technology & Innovation
KNEWTON: หลักสูตรความฉลาดแบบฉบับโลกดิจิทัล

การเรียนรู้ของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนชอบอ่านหนังสือ ขณะที่บางคนชอบเรียนรู้ผ่านการเล่น หรือจากประสบการณ์ ด้วยความเป็นปัจเจกนี้เอง ทำให้ระบบการเรียนการสอนในห้องเรียนปัจจุบัน ที่มักตีค่าความฉลาดของนักเรียนจากความสามารถในการเข้าใจการสอนของครูในชั้นเรียนได้ดี กลายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมนัก
โปรแกรมการเรียนออนไลน์นิวตัน (Knewton) เกิดขึ้นบนแนวคิดที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องความแตกต่างในการเรียนรู้ ด้วยการสร้างหลักสูตรเฉพาะสำหรับผู้เรียนแต่ละคน ให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นิวตันจะแปลงบทเรียนที่ปกติเป็นเพียงบทความและภาพประกอบ ให้มีความหลายหลายขึ้น เช่น สร้างเป็นวิดีโอสอน เรียนรู้ผ่านการเล่นเกม หรือเป็นบทความที่มีความสั้นยาวต่างกันตามความถนัดของผู้เรียน โดยนิวตันจะเริ่มวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียนผ่านการตอบคำถามที่ไม่ได้ดูแค่ผลลัพธ์แต่ยังดูความมั่นใจในการตอบคำถามแต่ละข้อระหว่างที่จับเวลาด้วย จากนั้นจึงวิเคราะห์ว่าผู้เรียนเหมาะจะเริ่มต้นด้วยความรู้พื้นฐานในบทเรียนไหน และควรเรียนอะไรต่อไป ยิ่งผู้เรียนใช้นิวตันนานขึ้นเท่าไหร่ นิวตันก็จะยิ่งรู้ว่าผู้เรียนเหมาะกับการเรียนแบบไหน เช่น หากผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้ดี ชอบความท้าทาย แต่ไม่ชอบอ่านเนื้อหายาวๆ นิวตันจะเลือกใช้เนื้อหาบทเรียนที่ยากขึ้นแต่มีความกระชับพร้อมใช้การเล่นเกมประกอบ ในทางกลับกัน หากผู้เรียนยังไม่มีความรู้พื้นฐานที่ดี เบื่อง่าย และขาดแรงจูงใจ นิวตันจะเลือกใช้วิดีโอในการสอนบทเรียนพื้นฐานง่ายๆ พร้อมให้ทำแบบฝึกหัดที่คิดแล้วว่าผู้เรียนจะตอบได้เพื่อสร้างความมั่นใจในการเรียนบทต่อไป นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถดูแผนการเรียนการสอน และความก้าวหน้าในการเรียนของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลาหากสามารถออนไลน์เพื่อล็อกอินได้
คำถามต่อไปก็คือ แล้วครูจะยังจำเป็นไหมสำหรับการเรียนผ่านนิวตัน คำตอบคือครูยังจำเป็นและยังมีบทบาทสำคัญในห้องเรียนเช่นเดิม เพราะครูจะเป็นผู้กำหนดเนื้อหาบทเรียนให้นิวตัน และเมื่อล็อกอินเข้าระบบครูจะทราบรูปแบบการเรียนของนักเรียนแต่ละคน รู้จุดอ่อนจุดแข็ง และรู้ภาพรวมความก้าวหน้าในชั้นเรียน ดังนั้นครูจึงสามารถให้คำแนะนำที่มีประสิทธิภาพต่อนักเรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีเวลาในการสอนหรือทำกิจกรรมที่เน้นพัฒนาจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เพิ่มเติมแทนการสอนแต่วิชาการในชั้นเรียน รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองก็สามารถล็อกอินเข้าระบบนิวตันเพื่อดูพัฒนาการด้านการเรียนของลูกๆ พร้อมอ่านคำแนะนำในการส่งเสริมการเรียนให้ลูกๆ ได้อีกด้วย
ปัจจุบัน นิวตันมีพาร์ทเนอร์ที่ยอมรับในประสิทธิภาพและนำไปใช้ประกอบการสอนจริงหลายองค์กร เช่น Pearson Mylap & Mastering ที่นำเอาเนื้อหาในหนังสือเรียนของเพียร์สันวิชาต่างๆ ใส่ผ่านโปรแกรมนิวตันเพื่อใช้สอนนักเรียนทั่วโลกแล้วกว่า 11 ล้านคน การใช้นิวตันในโปรแกรมการเรียนภาษาอังกฤษ (ELP) ของ Macmillan Education และ Cambridge University Press รวมทั้งการสอนคณิตศาสตร์สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย Arizona State University, The University of Alabama และ The University of Nevada Las Vegas ซึ่งมีผลลัพธ์ที่ยืนยันได้ว่านักศึกษาที่เรียนด้วยโปรแกรมนิวตันสามารถสอบวิชาคณิตศาสตร์ผ่านในอัตราร้อยละที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการสอนในห้องเรียนแบบปกติ และประโยชน์ของการเรียนแบบนิวตันนี้เองอาจสอดคล้องไปกับความเชื่อของนักจิตวิทยาโฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) หนึ่งในปัญญาชนร้อยคนผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2005 และ 2008 ที่เชี่อว่าวิทยาการของการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์อาจจะทำให้เราเกิดความเชี่ยวชาญได้รวดเร็วขึ้นหรือลดเวลาลงได้ถึงครึ่งหนึ่งจากเดิมที่ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าในการจะเชี่ยวชาญเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
แต่ถึงแม้อินเตอร์เน็ตจะช่วยให้มนุษย์ในศตวรรษที่ 21 มีความฉลาดด้านวิชาการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่มนุษย์ก็ยังจำเป็นต้องสื่อสารผ่านการพูดคุย สัมผัส และแสดงอารมณ์ต่อกันเพื่อดำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่โลกเสมือนไม่อาจทดแทนได้ ดังนั้นจึงเป็นความท้าทายที่ต้องหาจุดสมดุลในการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นสะพานหรือกระทั่งเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จไปพร้อมๆ กับการหาความสุขในโลกแห่งความจริงให้ได้ด้วย
“สุดท้ายแล้ว นิวตันก็เป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่ง” โจเซ่ ฟีเรรา (Jose Ferreira) ผู้ก่อตั้งนิวตันกล่าว
“สุดท้ายแล้ว นิวตันก็เป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่ง” โจเซ่ ฟีเรรา (Jose Ferreira) ผู้ก่อตั้งนิวตันกล่าว
เรื่อง: วรรณเพ็ญ บุญเพ็ญ
ที่มา
knewton.com
วิดีโอ “Knewton Adaptive Learning Platform” จาก youtube.com
บทความ “What If You Could Learn Everything?” (2013) โดย Anya Kamenetz จาก newsweek.com
หนังสือ ทักษะแห่งอนาคตใหม่: การศึกษาเพื่อศตวรรษที่ 21 (ฉบับปรับปรุง) บทที่ 1, 12, 13 โดย James Bellanca & Ron Brandt (Editors)