มิติใหม่ของความงาม แชมพูและครีมนวดผมชนิดไร้น้ำ ลดขยะเป็นศูนย์
Technology & Innovation

มิติใหม่ของความงาม แชมพูและครีมนวดผมชนิดไร้น้ำ ลดขยะเป็นศูนย์

  • 31 Mar 2021
  • 1188

ปัจจุบันความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องสำอาง และของใช้ส่วนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กอปรกับอุตสาหกรรมความงามเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ขึ้นชื่อว่าใช้ทรัพยากรน้ำเป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมาก ล่าสุด Everist สตาร์ตอัพแบรนด์ความงามน้องใหม่จากแคนาดา จึงคิดค้นและเปิดตัวผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผมชนิดเนื้อครีมสกัดเข้มข้นแบบล้ำยุคชนิดไม่ต้องใช้น้ำเป็นส่วนผสม หากสามารถทำความสะอาดผมได้สะอาดหมดจด ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติ ไร้สารเคมี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำเสนอในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ พร้อมแนวคิดลดขยะเป็นศูนย์ ที่ถือเป็นมิติใหม่ของวงการความงาม

ตอบโจทย์การใช้งาน และสร้างโลกที่ยั่งยืน
Everist ก่อตั้งโดยเจมี่ เจนกินส์ (Jayme Jenkins) และเจสซิก้า สตีเวนสัน (Jessica Stevenson) ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญในแวดวงความงามมามากกว่า 2 ทศวรรษ ทั้งคู่มีเป้าหมายในการคิดค้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามที่ดีมีคุณภาพ ใช้ทรัพยากรน้อย และไม่ก่อให้เกิดขยะสำหรับสาว ๆ ผู้รักสวยรักงาม

“เราเริ่มต้นจากคำถามที่ว่า ‘เราจะงดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในธุรกิจความงามได้อย่างไร” สตีเวนสัน ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอกล่าว

ทางด้านเจนกินส์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้ากล่าวว่า “ประสบการณ์การทำงานในธุรกิจความงามทำให้เราเข้าใจว่าควรทำอย่างไรเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ทั้งยังตระหนักด้วยว่าอุตสาหกรรมความงามสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่โลกอย่างไรและมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นเพื่อสร้างโลกสีเขียวที่ยั่งยืน เราจำเป็นต้องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามที่แตกต่างออกไป เป้าหมายของเราไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการตระหนักรู้และใส่ใจสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ ๆ ที่เปี่ยมประสิทธิภาพที่สุด ทั้งยังสร้างความยั่งยืนตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ด้วย (Product Life Cycle) ผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดเนื้อครีมสกัดเข้มข้นของแบรนด์ จะเปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนมีต่อผลิตภัณฑ์ความงามสายรักษ์โลกได้”

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ไร้น้ำเป็นส่วนผสม
รูปแบบธุรกิจของ Everist ที่ก่อตั้งในโทรอนโต ประเทศแคนาดา คือการสร้างสรรค์ผลิตใหม่ ๆ ที่ทันสมัยและยั่งยืนทั้งในแง่ของผลลัพธ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และการออกแบบ แนวคิดหลักในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มาจากข้อมูลที่ว่าแชมพูและครีมนวดผมในตลาดมักมีน้ำเป็นส่วนผสมมากถึง 70-80% ทั้งยังเต็มไปด้วยสารสังเคราะห์ และส่วนใหญ่ถูกบรรจุในบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง (Single-use plastic) ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าใช้น้ำในปริมาณมากเกินความจำเป็น อีกทั้งยังเพิ่มจำนวนขยะพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งอีกด้วย

“หลัก ๆ แล้ว มันมีการขนส่งขวดพลาสติกที่มีน้ำบรรจุอยู่ไปทั่วโลก ซึ่งเรามองว่าเรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผล” เจนกินส์กล่าว ด้วยเหตุนี้ Everist จึงพยายามคิดค้นและพัฒนาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาโจทย์ที่ตั้งไว้ จนในที่สุดเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ของแชมพูและครีมนวดที่มาในรูปแบบเนื้อครีมสกัดเข้มข้น โดยทางแบรนด์ต้องการให้ผลิตภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้บริโภค นอกเหนือจากการใช้แชมพูและครีมนวดผมแบบทั่วไป

“เราพบว่าแชมพูแบบก้อน (Shampoo bar) ใช้ยาก ส่วนแบบแห้ง (Powder Shampoo) ที่มาในรูปแบบแป้ง ก็มักจับตัวเป็นก้อน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ของเราใช้ง่าย และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ”

ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของแบรนด์ ประกอบด้วยแชมพูเนื้อครีมสกัดเข้มข้นชนิดไร้น้ำ (Waterless shampoo concentrate) และครีมนวดผมเนื้อครีมสกัดเข้มข้นชนิดไร้น้ำ (Waterless conditioner concentrate) โดยทั้งแชมพูและครีมนวดผมถูกบรรจุในหลอดอลูมิเนียมขนาดพกพา 100 มิลลิลิตร และมีความเข้มข้นสูงมาก ในขณะที่ประสิทธิภาพเทียบเท่าแชมพูและครีมนวดผมที่บรรจุในขวดทั่วไปในขนาด 300 มิลลิลิตร (ความเข้มข้นสูงกว่าแชมพูและครีมนวดทั่วไป 3 เท่า) ไม่เพียงเท่านั้น ยังก่อให้เกิดรอยเท้าคาร์บอนจากการขนส่งสินค้าในปริมาณน้อย โดยแบรนด์ตั้งเป้าหมายในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วย “ผลิตภัณฑ์นี้นับเป็นมิติใหม่ของวงการความงาม”

ส่วนผสมจากธรรมชาติล้วน ๆ
แชมพูและครีมนวดผมเนื้อครีมสกัดเข้มข้นชนิดปราศจากน้ำ 100% ประกอบด้วยส่วนผสมอ่อนโยนจากธรรมชาติ อย่างสารลดความตึงผิวที่มีกรดไขมันและน้ำมันมะพร้าว ว่านหางจระเข้ เปปเปอร์มินต์ มะขามป้อม น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ ฯลฯ สูตรจากพืชนี้ยังปราศจากพาราเบน ซัลเฟต ซิลิโคน สีสังเคราะห์ น้ำหอม สารกันเสีย ทั้งยังไม่ใช้ส่วนผสมที่มาจากสัตว์ (Vegan) และไม่มีการทดลองกับสัตว์ (Cruelty free) อีกเป้าหมายหนึ่งของแบรนด์คือการให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ใกล้เคียงกับการใช้แชมพูและครีมนวดในรูปแบบเดิมให้มากที่สุด เมื่อจะใช้ผลิตภัณฑ์ เพียงทำผมและมือให้เปียกน้ำ จากนั้นบีบเนื้อครีมจากหลอดราว 1 นิ้ว (สำหรับผมยาวปานกลาง) ถูเนื้อครีมบนมือที่เปียกน้ำจนเกิดเป็นฟองและสระผมได้ตามปกติ โดยผลิตภัณฑ์สามารถทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกด้วยคอนเซ็ปต์ลดขยะเป็นศูนย์
การลดขยะเป็นศูนย์ (Zero waste) เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ผู้ประกอบธุรกิจและผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญในปัจจุบัน Everist ก็เช่นกัน เพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทางแบรนด์จึงใช้บรรจุภัณฑ์เป็นหลอดอลูมิเนียมบริสุทธิ์ 99.7% ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ขนาดและน้ำหนักของผลิตภัณฑ์จึงเล็กกว่าเดิมมาก ส่วนฝาหลอดเป็นจุดเดียวที่ทางแบรนด์ยังต้องใช้พลาสติกอยู่บ้าง

เจนกินส์เผยว่า “เราทราบดีว่ามีพลาสติกเพียง 9% ที่ถูกนำมารีไซเคิล เราจึงจัดทำโครงการชื่อ Cap Back เพื่อให้ลูกค้ารวบรวมฝาหลอดที่ใช้แล้วคืนมาให้แบรนด์ เราจะได้นำกลับมาหลอมทำบรรจุภัณฑ์ใหม่ (Recycle) หรือสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (Upcycle) เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม โดยฝาหลอดผลิตจากพลาสติก PET (Polyethylene terephthalate) ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดเดียวที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ส่วนบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ก็ทำจากกระดาษคราฟต์รีไซเคิลทั้งหมด นับว่าแบรนด์มุ่งมั่นกับภารกิจลดขยะเป็นศูนย์อย่างแท้จริง”

ฝันที่เป็นจริงจากการสนับสนุนของนักลงทุนผู้มีวิสัยทัศน์
เจมี่ เจนกินส์ และเจสซิก้า สตีเวนสัน สองผู้ก่อตั้ง Everist เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแวดวงความงามในบริษัทระดับโลกมานานนับ 25 ปี เจนกินส์เริ่มทำงานที่บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ Procter & Gamble ก่อนจะย้ายไปทำงานให้แก่แบรนด์ดังอย่าง L’Oreal และ The Body Shop ในยุโรปมานานเกือบ 1 ทศวรรษ ซึ่งทำให้เธอมีโอกาสเปิดตัวนวัตกรรมความงามใหม่ ๆ ของผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ทางด้านสตีเวนสันเริ่มต้นการทำงานที่บริษัท General Mills ก่อนจะหันไปทำงานสายการตลาดระดับมืออาชีพให้แก่แบรนด์มหาชนอย่าง Revlon รวมทั้งยังเคยรั้งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปให้แก่ Nude by Nature แบรนด์ความงามสายธรรมชาติของออสเตรเลียอีกด้วย

แนวคิดที่จะลดการใช้ทรัพยากรและสร้างความยั่งยืนซึ่งสะท้อนผ่านผลิตภัณฑ์ของ Everist นั้นน่าสนใจ จนทำให้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินการระดมทุนในระดับ Pre-seed เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสินค้าต้นแบบ จากนักลงทุนที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ทั้ง Wonderment Ventures, บริษัทที่ต้องการขับเคลื่อนสังคมอย่าง Good & Well รวมทั้งแบรนด์จากแคนาดาที่ก่อตั้งโดยผู้หญิงเช่นกัน อย่างเช่น Knix และ SMYTHE ฯลฯ

สตีเวนสันกล่าวว่า “เราโชคดีที่ผู้คนเล็งเห็นถึงศักยภาพและความเป็นไปได้ในไอเดียของเราตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ในโลกของการสื่อสารข้อมูลแบบผิด ๆ และการฟอกเขียว (Greenwashing – การทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดด้วยการโฆษณาสินค้าหรือองค์กรให้มีภาพลักษณ์ว่ารับผิดชอบต่อสังคมโดยการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น) แนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์ และผลิตภัณฑ์ความงามที่สะอาดปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Clean beauty) จำเป็นต้องผ่านการคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบเพื่อการดำเนินการที่ถูกต้อง แบรนด์ของเรามุ่งมั่นในการค้นหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลดีกับทั้งระบบห่วงโซ่อุปทานและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด ต้องบอกว่าโชคดีที่หุ้นส่วนธุรกิจเชื่อมั่นในแบรนด์ และเข้าใจถึงความเข้มงวดในเรื่องต่าง ๆ จนนำมาสู่ผลลัพธ์ซึ่งก็คือผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผมเนื้อครีมสกัดเข้มข้นนี้”

แบรนด์ความงามยุคใหม่ไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ด้านรายได้เท่านั้น หากต้องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ภายใต้ปัญหาและโจทย์ใหม่ ๆ ที่ท้าทายอยู่เสมอ เพื่อมอบผลิตภัณฑ์เปี่ยมประสิทธิภาพ ทั้งยังตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง มันคือการสร้างความรู้สึกร่วมของการรักษาโลกให้ยั่งยืนที่จะสร้างคุณค่าให้แก่ทั้งแบรนด์และผู้บริโภคได้

ภาพ : helloeverist.com

ที่มา : บทความ “A Zero-Waste Innovation” โดย Wing Sze Tang จาก theknowhow.news
บทความ “Waterless, Plant-Based Shampoo and Conditioner in Recyclable Tubes” โดย Serafina Basciano จาก springwise.com
บทความ “Zero-Waste Beauty Start Up Everist Launches Waterless Haircare Concentrates” โดย Vincent Gallon จาก premiumbeautynews.com

เรื่อง : สุทัตทิชา ชนินทราดุสิต