PathSpot ตรวจจับมือสะอาดแบบเรียลไทม์

การระบาดของโควิด-19 กระตุ้นให้เกิดการตระหนักถึงการรักษาสุขอนามัยที่ดี โดยเฉพาะการล้างมือ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันการติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพ และปัจจุบัน เทคโนโลยี Spectroscopy ก็ได้สร้างเครื่องมือที่กลายมาเป็นอุปกรณ์สำคัญในช่วงเวลาที่คนทั้งโลกตระหนักถึงความปลอดภัยในการล้างมือมากกว่าที่เคย แถมยังได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 100 สิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดแห่งปี 2019 (100 Best inventions of 2019) โดยนิตยสาร Time นั่นก็คือ PathSpot เครื่องตรวจจับความสะอาดของมือแบบเรียลไทม์ โดยสตาร์ทอัพชื่อเดียวกันในนิวยอร์ก ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 และเพิ่งระดมทุนรอบ Series A ไปได้ถึง 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว 

ล้างมือ เช็ดให้สะอาด แล้วสแกน
ความสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญในการรับรองความปลอดภัยของอาหาร และการล้างมือก็เป็นวิธีป้องกันที่ง่าย ราคาถูกที่สุด และได้ผลดีที่สุดวิธีหนึ่งในการป้องกันโรคและการระบาด ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารจึงต้องพยายามแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงกระบวนการความปลอดภัยของอาหารและมือที่สะอาด

อย่างไรก็ดี ก่อนการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาพบว่า มีร้านอาหารน้อยกว่า 25% ที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องความถี่ในการล้างมือซึ่งประกาศเตือนโดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA food code) หากดูจากสถิติในแต่ละปียังพบว่า ชาวอเมริกันกว่า 48 ล้านคนป่วยด้วยอาการอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะการแพร่กระจายเชื้อโรคจากผู้ประกอบอาหาร คิดเป็น 89% ของการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นทั้งหมดภายในร้าน ดังนั้น การล้างมืออย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะการล้างมืออย่างปลอดภัยจะสามารถป้องกันโรคที่เกิดจากอาการท้องร่วงได้ 30% และลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางเดินหายใจลงได้ 20% เมื่อร้านอาหารกำลังกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งท่ามกลางวิกฤตด้านสุขภาพทั่วโลก ก็จะยิ่งทำให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องความสะอาดและผู้คนต่างต้องการความปลอดภัยในด้านสุขอนามัยในธุรกิจอาหารและบริการมากขึ้น

นวัตกรรมของ PathSpot จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อหวังจะยกระดับสุขอนามัยของพนักงานในอุตสาหกรรมอาหาร และถือเป็นระบบการจัดการสุขอนามัยมือระดับบุคคลแบบเรียลไทม์ระบบแรกของโลก ด้วยขั้นตอนแค่ “ล้าง เช็ดให้แห้ง และสแกนมือ” ผ่านเครื่องสแกนมือที่เชื่อมต่อ WiFi เพื่อระบุการปนเปื้อนจากไวรัสและแบคทีเรียที่มองไม่เห็น โดย PathSpot Hand Hygiene System จะสแกนและตรวจหาสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายซึ่งแพร่กระจายได้โดยทั่วไป และยังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความถี่และประสิทธิภาพของการล้างมือของแต่ละบุคคลให้เห็นสถิติอย่างชัดเจน เพื่อนำมาใช้วัดคุณภาพหรือปรับปรุงการทำงานได้ โดยผลจากการทำลองใช้งาน 30 วันภายในร้านอาหาร สามารถสร้างวินัยในการล้างมือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 เท่าจากเดิม และลดปริมาณสารปนเปื้อนในมือ 75% (ลดลง 97% หลังจาก 6 เดือน)

ตรวจจับเชื้อโรคด้วยคลื่นแสงสเปกโทรสโกปี
PathSpot ใช้หลักการของคลื่นแสงสเปกโทรสโกปี (Spectroscopy) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ใช้บ่อยในด้านของการดูแลสุขภาพ และการใช้ไฟ LED ที่ไม่เป็นอันตราย โดยสามารถตรวจจับโมเลกุลของเชื้อโรคเพื่อหาร่องรอยของสารปนเปื้อนบนมือของพนักงานที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ภายในเวลาเพียง 2 วินาทีเท่านั้น โดย PathSpot สามารถตรวจจับเชื้อที่มักมีการปนเปื้อนมาในอาหาร ตัวอย่างเช่น ตรวจจับโมเลกุลของจุลชีพในลำไส้ (Gut Microbiome) ตรวจเชื้อ Norovirus ซึ่งเป็นเชื้อของอาการท้องเสีย เชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E.coli) ที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร เชื้อซาลโมเนลล่า (Salmonella) ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ เชื้อไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) และแบคทีเรียลิสทีเรีย (Listeria) ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ โดยเครื่องจะแจ้งเตือนหากสิ่งปนเปื้อนยังคงอยู่หลังจากการล้างมือ แสดงว่าการล้างมือไม่ได้ผล และพนักงานก็จะต้องล้างซ้ำและสแกนซ้ำจนกว่าเชื้อเหล่านั้นจะหมดไป เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถป้องกันโรคที่จะเกิดได้

นอกจากนั้น PathSpot ยังตรวจสอบการล้างมือของแต่ละคนได้ โดยแสดงผลลัพธ์ผ่านแดชบอร์ดข้อมูล และบนหน้าจอเครื่องสแกนมือโดยตรง เพื่อให้พนักงานทราบขณะให้บริการลูกค้าอยู่ว่ายังได้มาตรฐานสุขอนามัยที่ดีหรือไม่ ซึ่งแต่ละร้านสามารถกำหนดมาตรฐานและประสิทธิภาพในการล้างมือของตัวเอง เพื่อใช้วัดค่าพนักงานว่ารักษาระดับความสะอาดไว้ตามที่กำหนดมากน้อยเพียงใด และยังสามารถตั้งรหัสประจำตัวพนักงานสำหรับการติดตามส่วนบุคคล ด้วยป้าย RFID เพื่อระบุข้อมูลแยกว่าใครล้างมือเมื่อใด และยังแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์หากตรวจพบว่ามีการปนเปื้อน หรือไม่ได้ล้างมือนานแล้ว และยังกำหนดค่าให้ระบบตรวจสอบได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ หลักการทำงานของเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) คือการใช้คลื่นความถี่วิทยุในการติดตามอ่านข้อมูลของวัตถุที่ติดแท็กไว้ จึงต่างจากบาร์โค้ดตรงที่ไม่ต้องยิงแสงสีแดงที่แถบบาร์ก็สามารถอ่านข้อมูลได้ ด้วยแท็ก RFID เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ สามารถรับคลื่นความถี่ได้ในหลายมุม ดังนั้น ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรในพื้นที่ไม่กว้างมาก อาทิ ร้านอาหาร หรือโรงอาหาร ก็สามารถติดตามและบันทึกพฤติกรรมของพนักงานภายในร้านได้ตลอดเวลา โดยสามารถติดตามความถี่และประสิทธิภาพของการล้างมือ โดยมีการบันทึกกิจกรรมและคุณภาพการล้างมือโดยตรงบนเครื่องสแกนมือ หรือแบ่งการตรวจสอบและติดตามได้เป็นเซกเมนต์ เช่น กำหนดแยกตามแผนก กำหนดตามวันที่/เวลา หรือกำหนดตามจุดล้างมือ หรือหากพนักงานมีความจำเป็นจนไม่สามารถล้างมือได้ตามความถี่ที่กำหนดไว้ด้วยสาเหตุใดก็ตาม ผู้จัดการหรือบริษัทจะได้นำข้อมูลมาวางแผนแก้ไขให้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนดได้เช่นเดียวกัน

สร้างวัฒนธรรมเชิงบวกด้านสุขอนามัย
PathSpot ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยสองวิศวกรชีวการแพทย์ คริสติน ชินด์เลอร์ (Christine Schindler) และ เทย์เลอร์ วานเดอร์ส (Taylor Waanders) ที่ได้รับการยกย่องให้อยู่ในรายชื่อ 30 Under 30 หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ของนิตยสาร Forbes ประจำปีนี้

ปัจจุบันเครื่องสแกนมือ PathSpot ถูกนำไปใช้ในภัตตาคาร ร้านอาหาร การผลิตบรรจุภัณฑ์ และแม้แต่ฟาร์มการเกษตรต่าง ๆ มากกว่า 500 แห่งในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ผู้คนยังปฏิบัติตามคำแนะนำในการล้างมือด้วย FDA Food Code อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งตรงกับคำแนะนำจาก WHO ด้วยว่าให้ล้างมือบ่อย ๆ และมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคและการระบาดทั่วไป รวมถึงโควิด-19

ทั้งนี้ ชินด์เลอร์ซึ่งรับหน้าที่ซีอีโอยังกล่าวด้วยว่า “PathSpot ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อส่งเสริมการล้างมือและเพื่อสร้างวัฒนธรรมเชิงบวกเกี่ยวกับสุขอนามัย โดยใช้ข้อมูลเพื่อช่วยในการวางแผนและป้องกันความเสี่ยงในอนาคต”

ที่มาภาพ : PathSpot

ที่มา :
pathspot.com
prnewswire.com/news-releases/pathspot-raises-6-5-million-in-series-a-financing
forbes.com/profile/pathspot
f6s.com/pathspottechnologiesinc

เรื่อง : กรชวัล กัลยวรรธน์