#DurianNFT โครงการผลักดันศิลปะ “NFT ทุเรียน” ฝีมือศิลปินไทยให้ดังไกลทั่วโลก
Technology & Innovation

#DurianNFT โครงการผลักดันศิลปะ “NFT ทุเรียน” ฝีมือศิลปินไทยให้ดังไกลทั่วโลก

  • 12 Jul 2021
  • 2043

เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกสายศิลปะและโลกดิจิทัล โดยเฉพาะการสร้างโอกาสให้ศิลปินสามารถสร้างรายได้ได้เป็นกอบเป็นกำจากความสามารถ พรสวรรค์ และการลงมือทำใรสิ่งที่รัก 

ล่าสุด Petz Patiyut (พีท) กูรูสาย NFT ไทยจากช่องยูทูบ NFTnCRYPTO Pete และ ผศ.เกรียงไกร กงกะนันทน์ อาจารย์ประจำคณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงลุกขึ้นมาสร้างแคมเปญสุดเจ๋ง ด้วยการจัดงานประกวด “Durian NFT DU IT YA STYLE” เพื่อเชิญชวนให้ศิลปินดิจิทัลทั่วไทยมารวมพลังแสดงฝีไม้ลายมือของตนเองให้ดังไกลระดับโลก พร้อมสร้างรายได้จากการสร้างศิลปะ “NFT Art เกี่ยวกับทุเรียน” ไปขายทั่วโลกกัน โดยงานนี้พีทและผศ.เกรียงไกร จะคอยช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้และยังมี 10 ศิลปินหัวหอกที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วร่วมเปิดตัวและประมูลทางเว็บไซต์ Opensea เป็นหลัก  

โดยวัตถุประสงค์หลักของงานนี้ก็คือ การดึงดูดให้ชาวต่างชาติได้มาเห็นและสนใจงานศิลปะ NFT จากอาร์ติสต์ที่เป็นคนไทยให้มากขึ้น และยังช่วยให้ศิลปินไทยได้ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติทั้งที่เป็นผู้สร้างงาน (Creator) และบรรดาผู้เก็บสะสม (Collector) อีกด้วย โดยงานนี้เริ่มต้นออกสตาร์ตกันแล้ว และกำลังได้รับผลตอบรับอย่างดี คือมีการซื้อขายเกิดขึ้นจริงแล้วมากกว่า 30 ชิ้นงานจากนักสะสมชาวไทยและต่างชาติ

ใครที่สนใจจะเข้าร่วมงานโครงการ #DurianNFT นี้ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานดิจิทัลของราชาแห่งผลไม้ในรูปแบบของ NFT ที่เกี่ยวกับทุเรียนกันได้แบบฟรีฟอร์ม โดยสร้างงานลงบนแพลตฟอร์มไหนก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนชิ้นงาน เพียงทำตามกติกาและข้อกำหนดง่าย ๆ ดังนี้ 

  1. ลองศึกษาหาความรู้ว่าศิลปะ NFT คืออะไร และผลิตอย่างไร จากนั้นลงมือสร้าง NFT ในคอนเซ็ปต์ “ทุเรียน” ในสไตล์ใดและรูปแบบใดก็ได้ จะเป็นไฟล์ รูปภาพ ภาพถ่าย หรือ วิดีโอ ก็สามารถทำได้ตามที่ถนัด และจะลงผลงานในแพลตฟอร์มไหนก็ตามสะดวกได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Opensea, Rarible, foundation, Hen, Binance, ETC

  2. เขียนรายละเอียดตัวงานลงใน Twitter ของตัวเอง เพื่อให้คนที่สนใจได้เข้าใจรายละเอียดของชิ้นงานนั้น ๆ พร้อมติด แฮชแท็กทาง Twitter ว่า #DurianNFT #DUITYASTYLE #opensea และแท็ก @nftthai @opensea มาให้เห็น เท่านี้ก็ถือว่าเข้าร่วมแล้ว

  3. ช่วย Retweet ข่าวการจัดงานนี้ และ Follow Twitter @Nftthai

  4. ร่วมจอยห้อง Discord เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้ที่ https://discord.gg/vMZj2P5u

อย่ารอช้า! คว้าโอกาสที่จะได้ร่วมสร้างผลงาน NFT Art สไตล์ไทย ๆ เพื่อส่งให้ทุเรียนไทยไปไกลระดับโลก และยังเป็นการเปิดช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้ศิลปินหรือใครก็ตามที่สนใจได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น  

ติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของงานประกวดได้ที่ 
Twitter: @nftthai
Discord: https://discord.gg/vMZj2P5u

 

NFT คืออะไร และสร้างรายได้ให้ศิลปินอย่างไร
NFT คือการรับรองทางดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่ให้การยืนยันผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มีความเฉพาะเจาะจงในวงการคริปโตอาร์ต NFT แต่ละเหรียญจะเป็นตัวแทนการเป็นเจ้าของผลงานศิลปะดิจิทัลของแท้เพียง 1 ชิ้น โดยคำว่า NFT นั้นมาจากคำว่า Non-Fungible Token หรือเหรียญที่ไม่สามารถทดแทนได้ จึงระบุถึงคุณสมบัติในการเป็นทรัพย์สินที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีการรับรองความเป็นเจ้าของ และสามารถนำไปซื้อขายผ่านบล็อกเชนได้ นอกจากนี้เหรียญ NFT ยังมีรายละเอียดต่าง ๆ อย่างผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นนั้นขึ้นมาคือใคร ผลงานถูกขายเมื่อใด และใครซื้อไปบ้าง ดังนั้นแม้ว่าใคร ๆ จะสามารถชมสำเนาภาพผลงานดิจิทัลทางออนไลน์ได้ แต่จะมีเฉพาะผู้ที่ซื้อเหรียญ NFT เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้เป็น “เจ้าของ” ภาพนั้น

โดยเหรียญ NFT เหล่านี้สามารถนำไปขายต่อหรือโอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของให้แก่อีกคนหนึ่งได้ ส่วนศิลปินผู้สร้างผลงานจะยังคงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทางปัญญาของภาพที่เกี่ยวข้องกับเหรียญ NFT นั้นอยู่ และสามารถรับค่าลิขสิทธิ์ในทุกครั้งที่มีการขายเหรียญนั้นต่อให้กับคนอื่น

 

รู้จัก Everydays: the First 5000 Days: คริปโตอาร์ตที่แพงที่สุดในโลก
ผลงาน "Everydays: the First 5000 Days" คือผลงานศิลปะดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเวลานี้ โดยมันถูกประมูลไปในมูลค่าสูงถึง 69,346,250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการประมูลของ Christie’s บริษัทประมูลงานศิลปะชื่อดังที่ได้จัดประมูลผลงานนี้ด้วยระบบ NFT (Non-Fungible Token) เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และทําให้ผลงานชิ้นนี้กลายเป็นสินทรัพย์เหรียญดิจิทัลที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ตลอดจนทําให้เจ้าของผลงานอย่าง Beeple หรือ Mike Winkelmann ศิลปินดิจิทัล กราฟิกดีไซเนอร์ และแอนิเมเตอร์ชาวอเมริกัน ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่และมีผลงานศิลปะที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกด้วย

ผลงาน "Everydays: the First 5000 Days" มีลักษณะเป็นภาพคอลลาจรูปแบบดิจิทัล ที่ศิลปินจัดวางแต่ละรูปด้วยการเรียงโทนสีต่อเนื่องกัน และยังจัดเรียงตามลำดับเวลาที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างภาพ ทำให้เห็นวิวัฒนาการทางผลงานของศิลปินได้เป็นอย่างดี โดย Beeple ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานนี้จากการวาดรูปลุงของเขาหรือ Uber Jay จากนั้นเขาจึงแชร์รูปที่วาดบนโลกออนไลน์ และทำสิ่งเดียวกันนี้ในวันรุ่งขึ้นและวันถัดไปทุก ๆ วัน โดยตลอด 13 ปีที่ผ่านมา Beeple ได้อัพโหลดภาพใหม่จำนวนมากในบัญชีอินสตาแกรม @beeple_crap ของเขา รวมเป็นเวลากว่า 5,000 วัน จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และมียอดผู้ติดตามกว่า 2.2 ล้านบัญชีแล้วจนถึงปัจจุบัน