ตะลุยโลกบล็อกสี่เหลี่ยมใน Minecraft เกมที่เป็นมากกว่าเกม
Technology & Innovation

ตะลุยโลกบล็อกสี่เหลี่ยมใน Minecraft เกมที่เป็นมากกว่าเกม

  • 20 Oct 2022
  • 1917

ท้องฟ้า ผืนดิน ก้อนเมฆ สายน้ำ ดอกไม้ ดวงจันทร์ ก้อนหิน ธรรมชาติเหล่านี้ในสายตาของคุณมีรูปทรงอย่างไร อาจมีหลายคนตอบว่าวงกลม วงรี หรือไร้รูปร่าง แต่สำหรับโลกในเกม “Minecraft” ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น “บล็อกสี่เหลี่ยม” ที่มีมุม 90 องศาเท่ากันทุกมุม

Minecraft คือวิดีโอเกมที่จำลอง (และดัดแปลง) โลกทั้งใบให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เพียงแค่คลิกเดียว Minecraft จะ generate โลกในเกมที่ใหญ่กว่าโลกจริงที่เรายืนอยู่ถึง 8 เท่า ซึ่งกว่าจะเดินรอบได้ก็ต้องใช้เวลาหลายปีในชีวิตจริง คุณจะได้เป็นผู้เล่นที่สามารถทำอะไรก็ได้กับโลกใบนี้ที่อยู่ในหน้าจอของคุณ อาจออกไปท่องเที่ยวสำรวจพื้นที่ที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ต่างกัน ทั้งป่าดิบชื้น ป่าโปร่ง ทุ่งดอกไม้ ทุ่งหญ้า ทะเลทราย เขาสูงชัน ที่ราบลุ่มแม่น้ำ เกาะแก่ง มหาสมุทร ถ้ำลึก ฯลฯ อาจใช้แร่หายากสร้างบ้านสร้างปราสาท ปกครองเมือง คราฟต์อุปกรณ์ ปลูกพืชทำการเกษตร ขุดดินขุดหินมุดเหมือง ตะลุยลาวา เข้าวาร์ปไปนรก ต่อสู้กับมอนสเตอร์ หรือพิชิตมังกร ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ในโลกไร้ขอบเขตทางความคิดแห่งนี้


Minecraft/facebook.com

Minecraft เป็นเกม Sandbox หรือเกมที่เหมือนการเล่นใน ‘กระบะทราย’ เป็นพื้นที่ที่จะสร้างสรรค์อะไรก็ได้ตามต้องการ โดยที่ไม่มีเป้าหมายอะไรที่ถูกกำหนดมาว่าต้องทำให้สำเร็จเพื่อชนะ Minecraft จึงไม่มีแพ้ชนะ ไม่มีเควส ไม่มีคำสั่ง ไม่มีแม้กระทั่ง tutorial สอนเล่นเมื่อเข้าเกม Minecraft จะแบ่งเป็น 2 โหมดหลัก ๆ คือ Survival และ Creative ในโหมด Survival ผู้เล่นจะต้องเอาชีวิตรอดโดยเริ่มจากศูนย์ ไม่มีอาหาร ไม่มีอุปกรณ์ การตัดต้นไม้ด้วยมือเปล่าคือสิ่งแรกที่ผู้เล่นทุกคนต้องพบเจอ และเมื่อพระอาทิตย์ตกก็จะมีมอนสเตอร์ออกมาโจมตี ผู้เล่นจะต้องหาหนทางป้องกันและต่อสู้เพื่อให้รอดชีวิตจนกว่าจะมีแสงแดดของเช้าวันถัดไป ส่วนโหมด Creative คือโหมดที่ผู้เล่นสามารถสร้างทุกอย่างได้โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องทรัพยากร เป็นพื้นที่ให้ผู้เล่นได้ทดลองและใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นคนเดียว หรือเปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อเล่นสนุกกับครอบครัวและเพื่อน ๆ หรืออาจเข้าไปผจญภัยในโลกของคนอื่นที่สร้างเซิร์ฟเวอร์ไว้อยู่แล้วก็ได้ 

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Minecraft ใช้เวลาอันสั้นนี้ในการก้าวไปสู่การเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หลายคนกล่าวตรงกันว่าไม่สามารถจำกัดนิยาม Minecraft ว่าเป็นเพียงแค่เกมอีกต่อไป เพราะ Minecraft มีอะไรมากกว่าบล็อกสี่เหลี่ยมที่ตามองเห็น และเป็นอะไรได้มากกว่าที่ต้องการให้เป็น เราจึงอยากชวนไปตะลุยโลก Minecraft เพื่อหาเหตุผลว่า “ทำไมโลกใบนี้จึงเป็นมากกว่าเกม” 

มองประวัติศาสตร์โลก Minecraft
Minecraft ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมเมอร์ชาวสวีเดน Markus "Notch" Persson ผู้ซึ่งใช้เวลาหลังเลิกงานมาปั้นโลกแห่งนี้ ก่อนจะปล่อยเวอร์ชันแรกที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ได้ทดลองเล่นกันในปี 2009 หลังจากได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด นอตช์ก็ลาออกจากงานประจำและก่อตั้งสตูดิโอ Mojang เพื่อหันมาพัฒนา Minecraft ได้อย่างเต็มที่ จนตัวเกมถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการในปี 2011 เพียงไม่นาน Minecraft ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยในปีเดียวกันนั้นเอง Mojang ยังได้จัดงาน Minecon (ย่อมาจาก Minecraft Conference) ในลาสเวกัส ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 4,500 คนจาก 23 ประเทศทั่วโลก และต่อมาก็ได้กลายเป็นอีเวนต์ประจำปีที่หลายคนตั้งตารอคอย

Minecraft กลายเป็นเกมยอดฮิตอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึงแม้แต่ตัวผู้สร้างอย่างนอตช์เอง มีผู้เล่นหลายคนเริ่มเรียกร้องให้นอตช์เพิ่มองค์ประกอบที่ตนเองต้องการในเกมให้มากขึ้น รวมถึงต่อว่าเมื่อเขาอัปเกรดหรือเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง กลายเป็นการโจมตีเขาไม่หยุดหย่อนผ่านทั้งทางอีเมล ทวิตเตอร์ และโพสต์ในฟอรัม จนท้ายที่สุดในปี 2014 นอตช์จึงตัดสินใจขาย Minecraft ให้กับ Microsoft ด้วยราคาสูงลิ่วและกลายเป็นมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืน พร้อมทั้งปฏิเสธการพูดถึง Minecraft กับสื่อทุกกรณี

หลังจากนั้น Mojang ก็ถูกส่งต่อให้ Jens "Jeb" Bergensten ที่พัฒนาตัวเกมเรื่อยมา มีการเพิ่มโหมดใหม่อย่าง Minecraft Story เพิ่มดันเจี้ยน (พื้นที่พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเป็นภารกิจที่ผู้เล่นจะต้องฝ่าฟันเอาชนะให้ได้) เพิ่มบล็อกประเภทอื่น และขยายให้สามารถเล่นเกมได้ในหลายแพลตฟอร์มมากขึ้น ปัจจุบัน Minecraft ใช้เวลาไม่กี่ปีสู่การเป็นวิดีโอเกมที่มียอดขายมากที่สุดในโลก เอาชนะเกมสุดคลาสสิกอย่าง Tetris ของค่ายเกม EA ที่ปล่อยออกมาก่อนไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2021 มีรายงานว่า Minecraft ยังมีผู้เล่นแอคทีฟอยู่ถึงกว่า 140 ล้านคนทั่วโลก ความสำเร็จเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า Minecraft ไม่ได้เป็นเพียงเกมธรรมดา แต่เป็น “โลกอีกใบ” ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ทั้งชีวิตของผู้เล่น วิถีของเกม และสังคมในอนาคต


Minecraft/facebook.com

Minecraft เกมที่เป็นมากกว่าเกม
วิธีการเล่น Minecraft พื้นฐาน ผู้เล่นจะต้องเริ่มต้นรวบรวมบล็อกทรัพยากรจำเป็นอย่างไม้ (แน่นอนว่าต้องใช้มือเปล่าสับลำต้น) เพื่อนำมาคราฟต์เป็นอุปกรณ์ จากบล็อกไม้ดิบ 1 บล็อก นำมาคราฟต์เป็นท่อนไม้ จากท่อนไม้นำมาคราฟต์เป็นแท่งไม้ เมื่อนำท่อนไม้และแท่งไม้มาคราฟต์รวมกันก็สามารถกลายเป็นขวาน พลั่ว อีเต้อ ดาบ ซึ่งสามารถนำไปรวบรวมบล็อกทรัพยากรอื่นต่อได้รวดเร็วมากขึ้น เช่น ใช้อีเต้อขุดหิน ใช้พลั่วตักดิน ใช้ดาบฆ่าสัตว์เพื่อเอาเนื้อและหนัง เมื่อเก็บรวบรวมทรัพยากรที่มีค่าได้มากขึ้น ก็จะสามารถคราฟต์อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น รวมถึงอาวุธและชุดเกราะเพื่อป้องกันตนเองจาก “Mobs” มอนสเตอร์ในเกมที่จะออกมาในยามค่ำคืน เช่น โครงกระดูก ซอมบี้ แมงมุมยักษ์ หรือ “Creeper” สิ่งมีชีวิตตัวเขียว ๆ ที่ผู้เล่น Minecraft อยากจะหลีกหนีให้ไกล แม้วิธีการเล่นพื้นฐานนี้จะดูไม่ยากเย็นและเป็นเพียงเกมธรรมดา แต่นี่เป็นเพียง 1% ของเกมที่รอให้ผู้เล่นมาไขความซับซ้อนอีก 99% ที่เหลืออยู่ Minecraft จึงเป็นเหมือนสนามทดลองที่ผู้เล่นสามารถค้นคว้ามันได้อย่างเต็มที่ และเปลี่ยนให้ “ผู้เล่น” ไปสู่การเป็น “นักคิด” ที่แท้จริง

สำหรับ Minecraft ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าทำถูกหรือทำผิด คุณสามารถทำหรือสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้ตามต้องการ จะยกสิ่งมหัศจรรย์ของโลกไปไว้ในเกม จำลองโรงเรียนฮอกวอตส์ ทำฟาร์มในเมืองน้ำแข็ง เลี้ยงหมูไว้ใต้ดิน หรือสร้างบ้านบนเรือลอยฟ้า โดยไอเท็มสุดมหัศจรรย์ที่ทำให้ Minecraft มีความซับซ้อนและแตกต่างจากเกมอื่น ๆ นั่นคือ “Redstone” ซึ่งทำหน้าที่เสมือนกระแสไฟฟ้า เรดสโตนจะมีลักษณะเป็นผงที่จ่ายพลังงานให้บล็อกและวางต่อกันเป็นวงจรอัตโนมัติได้ ด้วยสิ่งนี้ผู้เล่นสามารถต่อวงจรทำประตูลับ ทำลิฟต์ในบ้านสิบชั้น ทำฟาร์มอัตโนมัติที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งหมดได้เมื่อกดปุ่มเดียว ทำกับดัก Mobs ทำรถรางวางคมนาคม ทำมินิเกมให้เพื่อน ๆ ได้เข้ามาเล่นด้วยกันในโลกของคุณ และอีกสารพัดไอเดียสุดแล้วแต่ที่จะจินตนาการได้ 

แต่การใช้เรดสโตนไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เล่นบางคนใช้เวลาหลายวันในการสร้างสิ่งก่อสร้างและวางระบบต่อเรดสโตนจนเสร็จสมบูรณ์และพร้อมใช้งาน ในการต่อวงจรหากมีจุดผิดพลาดแม้จุดเดียว ก็อาจทำให้ระบบไม่สามารถใช้งานได้เลยก็ได้ Mimi Ito นักมานุษยวิทยาด้านวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ผู้สนใจศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กในเกม Minecraft กล่าวว่า “Mojang จะอัปเดตเกมทุกอาทิตย์ บางครั้งก็ทำให้วงจรเรดสโตนที่ผู้เล่นเพียรพยายามสร้างมาหลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือนใช้การไม่ได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่ผู้เล่นได้เรียนรู้จากเกมคือความยืดหยุ่น มันพังแล้วก็ซ่อม และต้องซ่อมด้วยตัวเอง ต้องหาสาเหตุเองว่าสตูดิโอปรับแก้ตรงไหน แล้วเราจะซ่อมสิ่งที่เราสร้างมาได้อย่างไร ไม่เหมือนกับเกมหรือแอปอื่น ที่เวลามันพัง ทุกคนจะตั้งคำถามว่า ‘จะแก้เสร็จเมื่อไร’ แต่ Minecraft ทำให้ผู้เล่นตั้งคำถามว่า ‘จะซ่อมได้อย่างไร’ เพราะว่านี่คือโลกที่เขาสร้างขึ้นมาเอง” 

Minecraft จึงได้กลายเป็นพื้นที่ฝึกความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุดของผู้เล่น โดยในประเทศไทยเองยังมีการจัดการแข่งขัน “Minecraft e-Sports Tournament” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้เล่นมาสาดไอเดียสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ตามจินตนาการของตนเองได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

นอกจากนี้ เพราะ Minecraft ไม่มี tutorial สอนเล่น ไม่มีคู่มือประกอบ ความอิสระที่ไร้ขอบเขตนี้ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับผู้เล่นใหม่ที่จะเข้าใจว่าจะเล่นเกมนี้ได้อย่างไร บางคนไม่รู้วิธีคราฟต์ บางคนไม่รู้วิธีสู้กับมอนสเตอร์ บางคนไม่รู้วิธีทำบ้านหรือหาอาหาร ไม่รู้วิธีสร้างเซิร์ฟเวอร์ ตัวช่วยสำคัญที่เกิดขึ้นและกลายเป็นจุดเด่นของเกมนี้จึงเป็น “Community” ที่แข็งแกร่งในแพลตฟอร์มต่าง ๆ และที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือบน Youtube 

เพื่อที่จะหาข้อมูลที่ตนต้องการ ผู้เล่นหลายคนเลือกเข้าไปดูวิดีโอของผู้เล่นคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยากทำประตูลับไว้ในปราสาท แต่ไม่รู้วิธีต่อวงจรเรดสโตน อยากทำโรงงานผลิตเหล็ก อยากได้แร่หายากแต่ไม่รู้วิธีเข้าไปใน “Nether” เมืองนรกของเกม ก็สามารถไปค้นหาวิธีของคนอื่นได้ใน Youtube ผู้เล่นบางคนก็เปิดช่องเพื่ออัปโหลดวิดีโอเกี่ยวกับ Minecraft จนมีชื่อเสียงก็มี และด้วยคอมมูนิตีที่ขยายไปทั่วโลก Minecraft ถึงกับได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ โดยการมียอดคนดูคลิปบนYoutube รวมกันมากกว่าล้านล้านวิว และยังคงดำเนินต่อไป 

การประสบความสำเร็จของ Minecraft ยังได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีของวงการเกมไปอย่างสิ้นเชิง Linus Larsson และ Daniel Goldberg นักเขียนหนังสือ Minecraft: The Unlikely Tale of Markus Persson and the Game that Changed Everything กล่าวว่า “Minecraft นั้นน่าทึ่งตรงที่มันถูกสร้างโดยบุคคลเพียงคนเดียว เราลองสอบถามสตูดิโอเกมต่าง ๆ ในสตอล์กโฮล์มและพบว่า หากตอนนั้นนอตช์มาเสนอเกมนี้ให้ พวกเขาไม่มีทางยอมรับเกม open-world ที่ไม่มีจุดมุ่งหมายอย่าง Minecraft มาพัฒนาต่อแน่นอน ค่าใช้จ่ายที่นอตช์ใช้สร้าง Minecraft ขึ้นมานับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเกมดังอื่น ๆ Minecraft ได้แสดงให้เห็นว่าโลกดิจิทัลมันเปลี่ยนไปอย่างไร การเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ จะสามารถยิ่งใหญ่ได้อย่างไร” ในขณะที่เกมอื่น ๆ มุ่งมั่นพัฒนากราฟิกที่เลิศเลออลังการ เอฟเฟกต์ที่ตื่นตาตื่นใจ ใช้งบประมาณและบุคลากรจำนวนมาก Minecraft กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เห็นว่าความคิดสร้างสรรค์เล็ก ๆ เกมรูปลักษณ์เหลี่ยม ๆ ง่าย ๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว มีคนพัฒนาไม่กี่หยิบมือ สามารถกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการได้

ปัจจุบันแม้ Minecraft จะเป็นเกมที่มีอายุมากกว่า 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังร่วมสมัยด้วยความอิสระ ไร้ข้อจำกัด ไร้กฎเกณฑ์ของตัวเกม ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถนำเกมมาปรับใช้และต่อยอดเพื่อสังคมอนาคตได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เช่น โปรเจ็กต์ The Uncensored Library ที่ถูกสร้างขึ้นในเกม Minecraft เพื่อให้กลุ่มคนในประเทศที่เข้าถึงได้จำกัด สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกเซนเซอร์ได้ หรือโปรเจ็กต์ Build the Vote ที่เป็นการให้ความรู้แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้เข้าใจเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงและเป็นพื้นที่ให้ถกประเด็นปัญหาในสังคม ไปจนถึงการจัดพิธีจบการศึกษาเสมือนจริงในเกมในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีเด็กหญิงชาวสวีเดนที่ใช้ Minecraft ในการออกแบบแผนพัฒนาชุมชนซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ได้จริง หรือการเกิดขึ้นของโปรเจ็กต์ Autcraft เซิร์ฟเวอร์ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กออทิสติกในการเข้าสังคมและหาเพื่อน

Minecraft ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับคนทุกเพศทุกวัยอย่างเท่าเทียม เป็น “เกมที่มากกว่าเกม” เพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างโลกของตัวเอง สามารถขีดเขียนเรื่องราวของตัวเองผ่านบล็อกแต่ละบล็อก เพราะบางที โลกของคุณก็อาจกลายจุดเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกใบใหญ่ใบนี้ได้ก็เป็นได้ 

ที่มา : บทความ “Why Minecraft is the most important game of the decade” โดย Charlie Hall จาก polygon.com 
บทความ “Why Minecraft is the greatest game ever made” โดย Zachary Boddy จาก windowscentral.com 
บทความ “Minecraft: how a game with no rules changed the rules of the game forever” โดย Tracy McVeigh จาก theguardian.com 
บทความ “The Minecraft Generation : How a clunky Swedish computer game is teaching millions of children to master the digital world.” โดย Clive Thompson จาก nytimes.com 
บทความ “Minecraft is an Ultimate Metaverse Teaching Platform” โดย MOHIT PANDEY จาก analyticsindiamag.com 
บทความ “Minecraft spawns classroom lessons” โดย Christina Barron จาก washingtonpost.com 
บทความ “What is Minecraft?” โดย Jon Bitner จาก digitaltrends.com 
บทความ “Minecraft” จาก wikipedia.org
บทความ “Best-selling videogame” จาก guinnessworldrecords.com 
บทความ “Minecraft hits over a trillion views on YouTube” โดย Tom Regan จาก vg247.com 

เรื่อง : ธัญวรัตม์ วงศ์เรือง