มาร์คหน้าใยไหมทองคำ ถอดรหัสงานวิจัยสู่นวัตกรรมเส้นใยแห่งการบำรุงผิว
Technology & Innovation

มาร์คหน้าใยไหมทองคำ ถอดรหัสงานวิจัยสู่นวัตกรรมเส้นใยแห่งการบำรุงผิว

  • 04 Dec 2023
  • 508

ท่ามกลางยุคที่ธุรกิจสุขภาพกลายเป็นอีกหนึ่ง Mega Trend ที่เติบโตไปทั่วโลก จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นการวิจัยค้นคว้าอย่างจริงจังเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมดูแลรักษาสุขภาพใหม่ ๆ ทั้งในตลาดธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์ หรือธุรกิจสปาและความงาม

‘มาร์คหน้าใยไหมทองคำ’ โดย CEILK คือหนึ่งในขบวนนวัตกรรมสุขภาพด้านเวชศาสตร์ของภาคเหนือที่โดดเด่นและน่าสนใจ ซึ่งต่อยอดมาจากการวิจัยเปลี่ยนพฤติกรรมหนอนไหมให้พ่นเส้นใยเป็นแผ่นของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ร่วมกับ จินนาลักษณ์ ชุ่มมงคล ผู้ประกอบการกระดาษสาแห่ง Jinnaluck Miracle of Saa จังหวัดเชียงราย พลันได้ค้นพบว่า ในเส้นใยของหนอนไหมที่ธรรมดาทั่วไปมักถูกนำไปใช้สำหรับผลิตสิ่งทอนั้นอุดมด้วยโปรตีนไหม (Silk Sericin) อย่าง เส้นใยโปรตีนไฟโบรอิน (Fibroin) 70-80% และเมือกเคลือบโปรตีนเซริซิน (Sericin) 20-30% ที่มากคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณ 

จินนาลักษณ์จึงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมโดยนำแผ่นใยไหมเข้าร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงต่อ กอปรกับเริ่มต้นศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสูตรบำรุงผิวด้วยโปรตีนไหม จนประสบความสำเร็จในการคิดค้นมาร์คหน้าใยไหมทองคำ นวัตกรรมบำรุงผิวหน้าจากสารสกัดธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสภาพผิว กักเก็บรักษาความชุ่มชื้นและปรับสีผิวแลดูกระจ่างใส ป้องกันรังสี UV รวมถึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและปกป้องผิวหน้าให้ห่างไกลจากปัญหาความเสื่อมสภาพ บำรุงผิว กันรังสียูวีได้ถึงสามชนิด และมีแอนตี้แบคทีเรียช่วยลดการอักเสบของผิว เนื่องจากโปรตีนเซริซิน มีความสามารถในการสมานแผลจึงกำลังจะถูกพัฒนาไปใช้ในด้านการแพทย์ทางเรื่องของการเป็นพลาสเตอร์เพื่อรักษาแผลต่อไป

โดยมาร์คหน้าของ CEILK ผลิตจากเส้นใยหนอนไหมสายพันธุ์ทับทิมสยามและสายพันธุ์วนาสวรรค์ ที่เป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุดและมีโปรตีนไหมสูงที่สุด ที่ถูกนำมาเลี้ยงไว้บนโครงไม้ตะแครงตาถี่ลักษณะใกล้เคียงกับแม่พิมพ์ทำกระดาษสาที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิมคือผลิตกระดาษสา ทำให้หนอนไหมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพ่นเส้นใยออกมาเป็นแผ่นคล้ายกับกระดาษและสามารถนำไปตัดขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้แผ่นใยไหมสีเหลืองที่ต้องแสงไฟจะมองเห็นเป็นแผ่นใยไหมสีทองอร่าม ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่าเป็นหนอนไหมสายพันธุ์ทับทิมสยามและสายพันธุ์วนาสวรรค์ เป็นคู่สายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์คือแผ่นมาส์กหน้าใยไหมทองคำและแผ่นพัฟล้างหน้าใยไหมทองคำ และ ยังได้สกัดโปรตีนจากรังไหมเป็นสารสกัด 4 ชนิด พัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ได้แก่ ครีมบำรุงผิวหน้า ซิลค์ไนท์ครีม ซิลค์เดย์ครีม เซรั่มบำรุงผิวหน้า และสบู่ล้างหน้าไยไหมทองคำ

ซึ่งมาร์คหน้าใยไหมทองคำทุกชิ้นนั้นผ่านการฆ่าเชื้อจากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อความสะอาดและปลอดภัย ที่สำคัญวัสดุหลักทั้งหมดยังคัดสรรมาจากหมู่บ้านเลี้ยงไหมในพื้นที่ 6 อำเภอทั่วจังหวัดเชียงราย ที่อยู่ภายใต้การดูแลและร่วมพัฒนาสายพันธุ์โดยกรมหม่อนไหม จึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพมาตรฐาน ตลอดจนกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากเดิมการเลี้ยงไหมจะเลี้ยงในอุปกรณ์การเลี้ยงไหม เช่น กระด้งเลี้ยงไหม หรือ จ่อ ซึ่งหนอนจะทอใยหุ้มตัวลักษณะดักแด้ ซึ่งใช้เวลา 5 วัน หลังจากนั้นจะถูกนำก้อนใยที่มีหนอนอยู่ด้านในมาต้มเพื่อทำการสาวไหม การต้มนี้จะทำให้โปรตีนเซริซิน (Sericin) ถูกละลายลงไปในน้ำต้ม และคงอยู่เพียง เส้นใยโปรตีนไฟโบรอิน (Fibroin) ที่นำไปเป็นเส้นใยไหมสำหรับการทอผ้าต่อไป การฝึกหนอนไหมให้ปล่อยใยเป็นผืนจึงเป็นวิธีรักษาโปรตีนที่ดีและไม่ทำลายวงจรผีเสื้อเพราะไม่ต้องต้มรังไหมเพื่อเอาเส้นใย นับเป็นการสานต่องานวิจัยยกระดับวัสดุท้องถิ่นไปพร้อมกับอนุรักษ์ภูมิปัญญาปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังทำเป็นแหล่งการเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้มีการใช้ผลิตภัณฑ์มาร์คใยไหม โดยสอนให้คนในชุมชนในเรื่องการให้บริการบำรุงดูแลผิวหน้า ช่วยเสริมสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน

เรื่อง : คุณากร เมืองเดช